รู้หรือไม่? โดยเฉลี่ยแล้วเราสามารถพูดได้ 125 – 150 คำต่อนาทีเร็วกว่าความเร็วในการพิมพ์โดยเฉลี่ยถึง 3 เท่า และนี่เองที่ทำให้ “เสียง (Voice)” กลายเป็นอีกเครื่องมือทรงพลังในการทำธุรกิจยุคนี้ที่ผู้ประกอบการจะมองผ่านไปเฉยๆ ไม่ได้แล้ว มาดู 5 เทรนด์แรงของการเปล่งเสียงเรียกลูกค้ากัน

1.Podcast
แค่เล่าให้ดี จับจุดให้ถูก ก็กระแทกใจคนฟังได้ แรงไม่แรงตอนนี้ก็มี Podcast ออกมาให้เห็นกันแล้วมากกว่า 850,000 รายการ กับกว่า 30 ล้านตอน แถมยังเป็นอีกช่องทางที่คนหันมาฟังกันมากขึ้นอีกด้วย

2.Voice Search
สะดวกไปอีก สั่งซื้อ / ค้นหาข้อมูลสินค้าด้วยเสียง! แค่ขยับปากก็ซื้อของได้แล้ว แบบนี้ลูกค้าจะไม่สนได้ยังไง โดยงานวิจัยของ MoffettNathanson ระบุว่า ผู้บริโภคจะเข้าถึง Voice Commerce มากขึ้นถึง 50% ภายในปี 2022 เนื่องจากเทคโนโลยีดังกล่าวจะมีราคาถูกลง ดูแล้วเหมาะกับการขายของออนไลน์เว่อร์

3.ASMR
ไม่ต้องพูดมากให้เจ็บคอ แค่เสียงกระซิบ เสียงลม เสียงเคี้ยวอาหาร หรือเสียงสัมผัสนู่นนี่ ก็กลายเป็นคอนเทนต์ตกลูกค้าได้ วิธีนี้นี่แหละที่ทำให้เหล่า YouTuber เพิ่มยอด Follower พุ่งปรี๊ดมาแล้วนักต่อนัก

4.Voicebot
อีกขั้นของการคุยกับ Chatbot ที่เปลี่ยนจากการพิมพ์มาเป็นการใช้เสียงในการโต้ตอบกันแทน งานนี้ไม่ต้องพิมพ์ให้เมื่อยนิ้วก็มีตัวแทนคอยตอบคำถามลูกค้าได้แบบชิลๆ

5.Lip-Syncing
นาทีนี้ไม่พูดถึงไม่ได้กับการลิปซิงค์บนแพลตฟอร์มมาแรงอย่าง TikTok ถ้าผู้ประกอบการรู้จักนำบทพูดโดนๆ หรือฮอตฮิตติดเทรนด์มาใช้ดูบ้าง ก็จะช่วยสร้างสีสันและความเป็นกันเองกับลูกค้าได้ไม่น้อย รู้อย่างนี้แล้ว อย่าลืมเกาะติดเทรนด์ ประยุกต์ใช้เทรนด์เสียงให้เหมาะกับธุรกิจของตัวเองกันน้า.....