แม้ว่าธุรกิจของคุณกำลังไปได้สวยมีรายได้เข้ามาไม่ขาดสาย จะใช้เงินเพื่อธุรกิจยังไงก็ได้อย่างไม่รู้จักคำว่าตระหนี่ ก็มีโอกาสที่จะทำให้ธุรกิจล้มลงได้ในสักวันนะครับ

หนึ่งตัวอย่างความล้มเหลวของธุรกิจที่ผมจะนำมาเล่าให้ฟังในวันนี้คือ เว็บไซต์ขายปลีกสินค้าแฟชั่น Boo.com บริษัทนี้ได้ใช้เงินไปถึง 160 ล้านดอลลาร์ ในช่วงปี 1998 - 2000 และเงิน 70 ล้านดอลลาร์ถูกใช้ไปกับอุปกรณ์ไฮเทคเพื่อสร้างเว็บไซต์ให้สลับซับซ้อน เช่น รองรับได้หลายภาษา หลากสกุลเงิน อีกทั้งบริษัทบางแห่งที่มีส่วนในการทำเว็บไซต์นี้ได้รับค่าจ้างที่สูงลิ่วถึง 100 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง

ส่วนพนักงานก็ถูกล่อใจไม่ให้ลาหยุดงาน โดยมีข้อเสนอว่าจะมอบตั๋วเครื่องบินชั้น 1 และโรงแรมระดับ 5 ดาวทดแทนให้ในภายหน้า

จากการใช้เงินอย่างฟุ่มเฟือยและไร้ขอบเขต นี้ทำให้ระบบการเงินภายในบริษัทมีปัญหาเรื่องการจัดการด้านภาษี จนไม่สามารถวางแผนว่าต่อไปจะต้องทำอะไรได้อีก ท้ายที่สุดเงินที่เคยมีก็ละลายกลายเป็นติดหนี้สิน พนักงานหลายร้อยคนไม่ได้รับค่าจ้าง และยังค้างชำระเงินแก่คู่ค้าธุรกิจอีกหลายล้านดอลลาร์

แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีอีกหนึ่งเว็บไซต์เล็กๆ อย่างอเมซอนในช่วงที่กำลังก่อสร้างธุรกิจขึ้นมาใหม่ๆ พนักงานของอเมซอนทำงานบนโต๊ะที่ทำจากขาหยั่งราคาถูกประกอบกับบานประตูพาดไว้ให้เป็นโต๊ะ อีกทั้งยังจำกัดค่าใช้จ่ายทางด้านไอทีไว้ให้ต่ำที่สุด แต่อเมซอนจะไม่มีการปลดมาตรฐานการบริการ และคุณภาพที่จะส่งให้ลูกค้า

ผมเชื่อว่าไม่มีใครไม่รู้จักเว็บไซต์อเมซอน ที่ปัจจุบันยังคงดำเนินการได้อยู่ แถมไม่ใช่องค์กรเล็กๆ แล้วเสียด้วย ฉะนั้นหากการตระหนี่จะช่วยให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้ ก็คงจะดีกว่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย จนสุดท้ายแทบไม่เหลืออะไร คุณเห็นด้วยไหมครับ?