เกร็ดความรู้ในการทำธุรกิจ

องค์อร เฟอร์นิเจอร์ ชี้เป้า! ใช้ “Dolly” แก้งานหยุด สะดุดไม่คล่องตัว

24 เมษายน 2566

“ของเก่าไม่ออก ของใหม่เลยเข้าไม่ได้” เป็นคำอธิบายปัญหาที่เจอในขั้นตอนกระบวนการพ่นสีเฟอร์นิเจอร์ ที่ทำให้ ตะวัน ตันวัชรพันธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท รตาวัน จำกัด จังหวัดเชียงราย ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ไม้สัก ภายใต้แบรนด์ “องค์อร เฟอร์นิเจอร์” ต้องเจอกับงานสะดุดหยุดอยู่กับที่ เพราะต้องรอให้ชิ้นงานก่อนหน้าแห้งก่อน แล้วถึงเคลื่อนย้ายได้ จนผลิตได้ไม่ทันใจและสร้างปัญหาให้กับธุรกิจ

งานหยุด...ธุรกิจสะดุดตาม
อย่างที่เกริ่นไปตอนต้นแล้วว่า การพ่นสีเฟอร์นิเจอร์นั้นไม่สามารถทำได้อย่างต่อเนื่อง เพราะต้องรองานชิ้นก่อนหน้าให้แห้งสนิทเสียก่อน ดังนั้น ความล่าช้า เสียเวลา และเสียโอกาสเพิ่มผลผลิตจึงเกิดขึ้นเป็นเงาตามตัว

“เวลาที่เราจะพ่นสีเฟอร์นิเจอร์นั้น เราจะนำชิ้นงานมาตั้งบนภาชนะแล้วทำการพ่นสี ดังนั้น เมื่อพ่นเสร็จเราเลยไม่สามารถที่จะเคลื่อนย้ายได้ เพราะเราไม่สามารถที่จะไปจับต้องหลังพ่นสีเสร็จแล้วให้เกิดรอยหรือตำหนิได้นั่นเอง พ่นเสร็จจึงต้องรอให้สีแห้งถึงจะขนย้ายได้”

  • - เสียเวลารอสีแห้งถึง 7.22 ชั่วโมง
  • - ใช้แรงงานเคลื่อนย้ายมากเกินไป = 2 คน/การเคลื่อนย้าย 1 ชิ้น
  • - ผลิตได้เพียง 2 ตัว/วัน

ย้ายได้เลย ด้วย “Dolly”
ดังนั้น เพื่อให้งานดำเนินไปได้อย่างคล่องตัว Dolly หรือรถเข็นของ จึงกลายเป็นอุปกรณ์ช่วยชีวิตที่ทำให้บริษัทสามารถขนย้ายชิ้นงานที่พ่นสีแล้วออกไปได้เลยโดยไม่ต้องรอให้แห้ง

“ด้วยความที่เราเป็นโรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์อยู่แล้ว จึงมีเศษไม้เหลืออยู่ เราก็นำไม้ตรงนี้มาทำเป็น Dolly พอเวลาจะพ่นสีก็นำชิ้นงานวางบน Dolly พ่นเสร็จก็สามารถเคลื่อนย้ายออกไปได้เลย ไม่ต้องรอจนสีแห้งเหมือนก่อนอีกแล้ว พอพ่นชิ้นเก่าเสร็จ ชิ้นใหม่ก็เข้าพ่นต่อได้เลย ช่วยให้ไม่ต้องรอและได้ผลผลิตเพิ่มขึ้น”

  • - ลดเวลารอสีแห้งเหลือเพียง 5 นาที
  • - ผลิตได้เพิ่มขึ้นเป็น 8 ตัว/วัน

เท่านี้ธุรกิจที่เคยต้องหยุดและสะดุดก็ลื่นไหลได้ แค่ลองใช้ของที่มีอยู่แล้ว มาปรับปรุงให้ทำงานง่าย ทำงานไว และทำงานได้สะดวกขึ้น  

บริษัท รตาวัน จำกัด เป็นหนึ่งในธุรกิจที่ผ่านการเข้าร่วมโครงการ “โตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์” และเรียนรู้การนำระบบ TPS (Toyota Production System) และการไคเซ็น (Kaizen) มาใช้ ตลอดจนมีศักยภาพในการยกระดับการดำเนินงานให้เป็น “ศูนย์การเรียนรู้โตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์” (Yokoten Center) ซึ่งสามารถส่งมอบองค์ความรู้และประสบการณ์การพัฒนาและปรับปรุงธุรกิจอย่างต่อเนื่องแก่ผู้เยี่ยมชมและธุรกิจที่มีความสนใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ