ใครจะคิดว่า สินค้าที่ผลิตเสร็จพร้อมขาย จะสร้างปัญหาให้กับธุรกิจได้มากมาย แค่จุดเล็กๆ จากการ “วางไม่เป็นที่” ก็สร้างบาดแผลใหญ่ให้กับ คมกฤช บริบูรณ์ กรรมการผู้จัดการ ศูนย์ส่งเสริมฝีมือจักสานด้วยไม้ไผ่ อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์งานฝีมือและของที่ระลึกจากไม้ไผ่ ภายใต้แบรนด์ บริบูรณ์ คราฟท์ มาแล้ว

วางตรงไหนก็ได้ = เงินหาย
สต็อกกระเป๋าจักสานที่ทำเสร็จพร้อมขายแล้ว เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ธุรกิจต้องเจอ เพราะการวางแบบปะปนและไม่ได้จัดเก็บไว้ให้อยู่ในที่เดียวกัน

“เรามีกระเป๋าที่พร้อมจำหน่ายอยู่หลายรุ่น วางปะปนกันไป บางรุ่นก็มีเยอะ บางรุ่นก็มีน้อย บางรุ่นก็มีแต่หาไม่เจอ การไม่จัดระเบียบแบบนี้เคยหนักถึงขั้นที่ทำให้เราไม่รู้ชนิดของกระเป๋าและจำนวนของสินค้าที่มีอยู่ในสต็อกเลย”

วางตรงไหนก็ได้ = คนขายรู้อยู่คนเดียว
ไม่ใช่แค่สร้างปัญหาเปลืองพื้นที่ในการจัดเก็บเท่านั้น การวางไม่เป็นระเบียบยังส่งผลเสียในส่วนของการขายด้วย นั่นเพราะมีเพียงพนักงานขายหน้าร้านคนเดียวเท่านั้นที่รู้ว่าสินค้าพร้อมจำหน่ายนั้นวางอยู่ที่ไหน

“การที่วางๆ เอาไว้แบบนี้ ถ้าคนขายหน้าร้านไม่อยู่ คนที่เหลือก็จะไม่รู้ว่ากระเป๋าที่พร้อมขายแล้วนั้นอยู่ตรงไหน จนต้องเสียเวลาในการถามหา ทำให้บางครั้งลูกค้าต้องรอ และเราก็สูญเสียโอกาสในการขายไป”

ล้างบางทุกปัญหา แค่ “จัดกลุ่ม จัดที่วางให้ชัดเจน”
แน่นอนว่าเรื่องยุ่งๆ แบบนี้ จะปล่อยไว้ไม่ได้อีกต่อไป ทางบริบูรณ์ คราฟท์ จึงลงมือจัดการให้อยู่หมัดด้วยการจัดกระเป๋าที่พร้อมขายให้เป็นกลุ่ม และทำการจัดวางให้เป็นที่แบบชัดเจน

“เรามีการจัดเก็บกลุ่มกระเป๋ารุ่นหรือแบบเดียวกันไว้ด้วยกันและจัดที่วางให้ชัดเจน พอทำแบบนี้ก็ช่วยให้เราสามารถตรวจนับและเช็กสต็อกได้ง่ายขึ้น รวมถึงยังรู้ด้วยว่าของตัวไหนมีหรือไม่มี มีแล้ววางไว้ตรงไหน เวลาหามาเพื่อจำหน่ายก็จะง่ายขึ้น ซึ่งไม่ว่าใครที่อยู่ร้านก็สามารถรู้ได้เลยว่าของอยู่ตรงไหนและขายของได้ ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่ต้องรอคนขายหน้าร้านเพียงอย่างเดียว”

เสริมทัพด้วย “สต็อกการ์ดเข้า-ออก”
และเพื่อให้การจัดระเบียบสินค้าผลิตสำเร็จและรอขายเป็นระบบมากขึ้น สต็อกการ์ดควบคุมการเข้า-ออก จึงถูกนำมาใช้ร่วมด้วย

“พอมีการใช้สต็อกการ์ดเพื่อเช็กสต็อกเข้า-ออกของผลิตภัณฑ์ทำสำเร็จอย่างชัดเจนแบบนี้ ทำให้เห็นได้เลยว่ากระเป๋าแบบไหน รุ่นไหนที่ยังมีอยู่ หรือแบบไหนที่ควรผลิตเพิ่ม ซึ่งเมื่อก่อนจะมีแค่คนที่ดูในส่วนขายคนเดียวที่จะรู้ คนอื่นจะมองไม่เห็นว่าอะไรเหลือ อะไรขาด พอใช้วิธีนี้เราก็เห็นหมดและไม่ต้องแบกรับสต็อกที่มันมากเกินความจำเป็น”

หลังการปรับปรุงและจัดการการจัดวางสินค้าพร้อมจำหน่ายอย่างเป็นระเบียบ เป็นที่เป็นทาง ทำให้ บริบูรณ์ คราฟท์ สามารถลดเงินจมในคลังสินค้าที่มีกว่า 1.2 ล้านบาทต่อปี ให้เหลือเพียง 440,000 บาท และสามารถบริหารจัดการการเติมสต็อกได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น    

ศูนย์ส่งเสริมฝีมือจักสานด้วยไม้ไผ่ อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี ภายใต้แบรนด์ บริบูรณ์ คราฟท์ เป็นหนึ่งในธุรกิจที่ผ่านการเข้าร่วมโครงการ “โตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์” และเรียนรู้การนำระบบ TPS (Toyota Production System) และการไคเซ็น (Kaizen) มาใช้ ตลอดจนมีศักยภาพในการยกระดับการดำเนินงานให้เป็น “ศูนย์การเรียนรู้โตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์” (Yokoten Center) ซึ่งสามารถส่งมอบองค์ความรู้และประสบการณ์การพัฒนาและปรับปรุงธุรกิจอย่างต่อเนื่องแก่ผู้เยี่ยมชมและธุรกิจที่มีความสนใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ