ได้ยินบ่อยจนหลอนอยู่ในหูกับคำมาแรงอย่าง “Metaverse” หรือ “โลกเสมือน” ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ผู้คนได้เข้ามามีปฏิสัมพันธ์และทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันได้ โดยอาศัยเทคโนโลยี AR (Augmented Reality) และ VR (Virtual Reality) เข้ามาช่วยเชื่อมโยงให้โลกจริงและโลกเสมือนกลายเป็นใบเดียวกันอย่างไร้รอยต่อ

Meta-What?

เป็นปกติที่อะไรที่เป็นเรื่องใหม่คนก็ย่อมไม่คุ้นเคย โดยผลสำรวจของ Gartner บริษัทวิจัยและให้คำปรึกษาระดับโลก ซึ่งสำรวจชาวอเมริกันจำนวน 324 รายในเดือนมกราคมที่ผ่านมา เผยให้เห็นว่า ผู้บริโภคมากกว่า 1 ใน 3 (35%) ไม่เคยได้ยินเรื่องของ Metaverse มาก่อน ในขณะที่ 38% เคยได้ยิน แต่ไม่แน่ใจว่าหมายถึงอะไร และ 21% บอกว่าค่อนข้างคุ้นเคยกับคำนี้ แต่อธิบายให้คนอื่นฟังไม่ได้ โดยมีเพียง 6% เท่านั้นที่บอกว่าเข้าใจและสามารถอธิบายให้ผู้อื่นฟังได้

ทั้งนี้ ในบรรดาคนที่อย่างน้อยก็พอได้ยินเรื่องของ Metaverse มาบ้างนั้น 60% กล่าวว่าไม่มีความเห็นในเรื่องนี้ โดยมีเพียง 18% เท่านั้นที่รู้สึกตื่นเต้นตามไปด้วย นอกจากนี้ ผู้คน 21% ยังรู้สึกกังวลถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจาก Metaverse อีกด้วย

โอกาสรออยู่ข้างหน้า

แม้ผู้คนจะยังไม่คุ้นชินมากนัก แต่ Gartner ได้ยกให้ Metaverse เป็น 1 ใน 5 เทรนด์ และเทคโนโลยีที่ต้องจับตาแห่งปี 2565 พร้อมคาดการณ์ว่า ภายในปี 2569 ผู้คน 25% จะใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งชั่วโมงต่อวันบน Metaverse เพื่อทำงาน ช้อปปิง เรียนหนังสือ เข้าสังคมหรือหาความบันเทิง ในขณะที่ 30% ขององค์กรทั่วโลกจะมีผลิตภัณฑ์และบริการพร้อมสำหรับ Metaverse ในอีก 4 ปีข้างหน้า

ทำไม Metaverse ถึงโดนใจคน?

จากรายงานของ NordVPN ยักษ์ใหญ่ในธุรกิจ VPN ซึ่งสำรวจผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกาจำนวน 1,002 ราย พบว่า สาเหตุที่คนอยากโลดแล่นอยู่บน Metaverse นั้นเป็นเพราะต้องการสัมผัสกับสิ่งที่พวกเขาไม่สามารถมีหรือทำได้ในความ

เป็นจริง (41%), ต้องการสื่อสารกับผู้อื่นที่อยู่ในนั้น (40%), มองว่าเป็นวิธีที่ดีที่ได้ร่วมวงกับคนอื่น (38%), ต้องการหลีกหนีจากสภาพแวดล้อมบนโลกจริง (28%), คาดการณ์โอกาสทางการศึกษา (28%) และต้องการเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของตัวเองดูบ้าง (23%)

แต่ผู้คนก็ยังมีความกังวลเกี่ยวกับการใช้ Metaverse โดย 50% มองว่าจะทำให้การปลอมตัวเป็นคนอื่นทำได้ง่ายขึ้น, 47% กังวลว่าตัวตนของพวกเขาจะไม่ได้รับการคุ้มครองทางกฎหมายอีกต่อไป, 45% กลัวว่าการขุดข้อมูลที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ความปลอดภัยของพวกเขาลดลง, 43% รู้สึกว่าการที่ไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วอีกคนเป็นใครทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัย, 41% คิดว่าเป็นเรื่องยากที่จะปกป้องตัวตนที่แท้จริงจากการถูกเปิดเผยใน Metaverse และ 37% กลัวว่าการทำธุรกรรมจะไม่ปลอดภัยมากเท่าที่คิด

ทั้งหมดนี้ คือสิ่งที่คนทำธุรกิจต้องตามให้ทัน เพราะผู้บริโภค 66% คิดว่า Metaverse จะสามารถเข้ามาแทนที่โซเชียลมีเดียได้ เพราะรู้จักและใช้งานอยู่แล้วในปัจจุบัน โดย 24% มองว่าสามารถทดแทนได้ทั้งหมด ในขณะที่ 42% คิดว่าสามารถทดแทนได้บางส่วน รู้แบบนี้แล้ว อย่าลืมเตรียมตัวและวางแผนล่วงหน้ารับเทรนด์มหึมาครั้งนี้ให้ดี!

อ้างอิง : https://www.gartner.com/en/newsroom/press-releases/gartner-marketing-survey-finds-35--of-consumers-have-never-heard https://www.gartner.com/en/newsroom/press-releases/2022-02-07-gartner-predicts-25-percent-of-people-will-spend-at-least-one-hour-per-day-in-the-metaverse-by-2026 https://www.gartner.com/en/articles/5-impactful-technologies-from-the-gartner-emerging-technologies-and-trends-impact-radar-for-2022-1 https://nordvpn.com/lt/blog/metaverse-survey/