ข่าวประชาสัมพันธ์

โตโยต้า เดินหน้าต่อกิจกรรม T-SI The Wisdom Workshop รู้ครบ… จบทุกปัญหาธุรกิจ ครั้งที่ 5 จังหวัดเชียงราย มุ่งเน้นปณิธาน “ส่งต่อความรู้สู่ความยั่งยืน” ให้ครอบคลุมทั้ง 6 ภูมิภาคทั่วประเทศ

26 พฤษภาคม 2566

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด จัด “กิจกรรม TSI-The Wisdom Workshop รู้ครบ… จบทุกปัญหาธุรกิจ” ครั้งที่ 5 “เจาะเทคนิคการตลาดออนไลน์ต้นทุนต่ำหนุนธุรกิจปัง” ณ บริษัท รตาวัน จำกัด จังหวัดเชียงราย เมื่อวันศุกร์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ.2566

โดยที่ผ่านมา ได้มีการจัดกิจกรรมไปแล้ว 4 ครั้ง ที่จังหวัดสระบุรี, ขอนแก่น, กาญจนบุรี และจังหวัดสงขลา ซึ่งได้รับการตอบรับเข้าร่วมกิจกรรมเป็นอย่างดี จากกลุ่มประชาชนผู้ทำธุรกิจ SME ในท้องถิ่น เข้ารับฟังแนวทางการเรียนรู้ของระบบการผลิตแบบโตโยต้า (TPS) และหลักการไคเซ็น เพื่อนำไปเป็นแนวทางสำหรับประยุกต์แก้ไขปัญหา ปรับปรุงและพัฒนาธุรกิจของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ สู่การทำธุรกิจแบบมืออาชีพ ลดต้นทุน ลดความสูญเสีย และเพิ่มกำไรอย่างต่อเนื่อง

ซึ่งแนวคิด “ไคเซ็น” เป็นแนวคิดสำคัญที่โตโยต้า ตั้งใจถ่ายทอดสู่ชุมชน คำว่า “ไคเซ็น” มาจากภาษาญี่ปุ่น 改善 ซึ่งแปลว่า “การปรับปรุง โดยคำนี้มาจากคำว่า 改 – Kai ที่แปลว่า “การเปลี่ยนแปลง” และ 善 – Zen ที่แปลว่า “ดี” แนวคิด Kaizen จึงหมายถึงหลักในการปรับปรุงและพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น เมื่อผสานกับหัวใจการผลิตของโตโยต้าคือ ส่งมอบของที่ใช่ ด้วยปริมาณที่ใช่ ในเวลาที่ต้องการ ควบคุมต้นทุนคุณภาพให้เหมาะสม ซึ่งจะนำไปสู่ความพึงพอใจของลูกค้า รายได้มั่นคงของพนักงาน และผลประกอบการที่ยั่งยืน

และสำหรับครั้งที่ 5 ณ บริษัท รตาวัน จำกัด จังหวัดเชียงราย มีปัญหาทางธุรกิจ และผลลัพธ์จากการนำเอาองค์ความรู้ในการดำเนินธุรกิจของโตโยต้ามาปรับปรุงการดำเนินงาน ดังนี้

1. ปัญหาการใช้วิธีผลิตแบบ Single station คือ ช่าง 1 คนต่อ 1 โมเดล โดยลงมือทำเองทุกขั้นตอน ตั้งแต่แบกไม้ ตัดไม้ เลื่อยไม้ ไสไม้ ไม่มีการแบ่งหน้าที่ชัดเจนให้กับผู้ช่วย ทำให้ต้องใช้เวลาในการผลิตจากการเตรียมวัสดุและขึ้นโครงนานเฉลี่ยมากกว่า 50 ชั่วโมง/เฟอร์นิเจอร์ 1 ตัว ต้นทุนการผลิตจึงสูงขึ้น

จึงได้ใช้ระบบ Share workload ปรับการทำงานระหว่างผู้ช่วยช่างกับช่าง โดยให้ช่างเป็นผู้ประกอบอย่างเดียวประจำโต๊ะ และให้ผู้ช่วยเป็นคนเดินงาน เพื่อเตรียมขึ้นรูปชิ้นส่วนต่างๆ ให้เบื้องต้น ทำให้ลดขั้นตอนการทำงานลง สามารถส่งมอบงานได้เร็วขึ้น เช่น จากการผลิตโครงไม้สามารถลดลงจาก 50 ชั่วโมง เหลือเพียง 43 ชั่วโมง

2. ปัญหางานพ่นสีที่มีขั้นตอนมากเกินไปจากการทำงานซ้ำซ้อน เช่น การขัดผิวไม้และพ่นสีทำอยู่ในบริเวณใกล้กัน ไม่ได้มีการแยกห้องออกมาให้เป็นสัดส่วนชัดเจน ทำให้ขณะที่พ่นสีอยู่ฝุ่นจากการขัดมาติดที่ชิ้นงานได้ ต้องกลับไปแก้ไขใหม่ โดยเคยต้องซ่อมงานใหม่สูงสุดมากถึงกว่า 200 จุด นอกจากนี้เมื่อพ่นสีเสร็จเรียบร้อยแล้วต้องใช้เวลารอสีแห้งอีกกว่า 7 ชั่วโมงจึงจะสามารถเคลื่อนย้ายได้ งานใหม่จึงไม่สามารถทำต่อได้เลยทันที ทำให้รวมๆ แล้วต้องเสียเวลาในขั้นตอนการพ่นสีจนเสร็จเรียบร้อยต่อเฟอร์นิเจอร์ 1 ตัวนานกว่า 43 ชั่วโมง นอกจากนี้ห้องพ่นสียังไม่ได้มาตรฐาน ทำให้มีกลิ่นสีฟุ้งกระจายออกมา จนเกิดการร้องเรียนจากชุมชน

จึงได้ทำ Dolly เพื่อรองรับชิ้นงานเมื่อพ่นสีเสร็จ ทำให้สามารถเคลื่อนย้ายได้ โดยใช้เศษไม้ที่มีอยู่แล้วมาประดิษฐ์เป็นอุปกรณ์ขึ้นมา ทำให้ตัดขั้นตอนการรอสีแห้งซึ่งใช้เวลากว่า 7 ชั่วโมงออกไป โดยสามารถพ่นสีตัวใหม่ต่อได้ในทันที จากขั้นตอนการพ่นสีทั้งหมดที่ต้องใช้เวลา 43 ชั่วโมงก็ลดเหลือเพียง 25 ชั่วโมงเท่านั้น

3. ปัญหาการเก็บสต็อกไว้มากเกินความจำเป็น ทำให้ต้นทุนจม เมื่อเก็บไม้ไว้นานยังอาจสร้างความเสียหายให้เกิดขึ้นได้ด้วย เช่น ไม้ขึ้นรา แตกหัก นอกจากนี้ยังไม่มีการจัดแยกประเภทและขนาดให้ชัดเจน ขาดการจัดลำดับการใช้งานก่อนมาหลัง ทำให้ต้องเสียเวลาในการค้นหาเมื่อต้องนำมาใช้งานจริง

จึงได้จัดทำบอรด์มาตรฐานการปฏิบัติงาน ตั้งแต่ประเภทของไม้ที่ใช้ จำนวน ขนาด และบอรด์ควบคุมงานเข้า - ออก ตั้งแต่คำสั่งซื้อ จนถึงกำหนดเวลาส่งมอบงาน เพื่อใช้เป็นแนวทางและกำหนดเป้าหมายในการทำงาน จากปัญหาที่ทำให้สูญเสียโอกาสในการขาย เพราะไม่สามารถให้คำตอบระยะเวลาการผลิตที่แน่นอนได้ ก็สามารถทำได้

และเคลียร์สต็อกเก่าออก วางระบบสต็อกใหม่ อะไรที่ไม่ใช่ ก็ทิ้ง อะไรที่ยังใช้ได้ แต่นานแล้ว ก็จัดทำโปรโมชั่นขายออกไป เพื่อให้ได้ทุนคืนกลับมา และประหยัดพื้นที่จัดเก็บ จากนั้นลองบริหารจัดการสต็อกใหม่ให้พอดีกับจำนวนการผลิต เช่น จากไม้อัดที่เดิมสั่งมาตุนไว้เดือนละแสนกว่าบาท ก็ปรับลดลงมาเหลือเพียง 5 หมื่นบาทต่อเดือนเท่านั้น ทำให้ช่วยลดต้นทุนจมในธุรกิจลงได้

ทั้งนี้ในกิจกรรมการอบรม ทางโตโยต้ายังต่อยอดและส่งต่อความรู้สู่ความยั่งยืน ให้กับธุรกิจชุมชนในพื้นที่ และทั่วประเทศ ด้วยการจัดสัมมนาแบบไฮบริด (เรียนผ่านออนไลน์ด้วยระบบ Zoom และเข้าร่วมสัมมนาที่ศูนย์การเรียนรู้ โตโยต้าธุรกิจชุมชนพัฒน์) ที่เหลือในครั้งสุดท้ายนี้คือ

ครั้งที่ 6: วันพฤหัสบดีที่ 9 มิถุนายน 2566 ณ บริษัท บริบูรณ์ คราฟท์ จำกัด จังหวัดชลบุรี
ตอนต้นทุนสูง กำลังผลิตต่ำ เรียนรู้กลยุทธ์การสร้าง Productivity สำหรับ SME

อย่างไรก็ตามการจัดกิจกรรม TSI-The Wisdom Workshop รู้ครบ… จบทุกปัญหาธุรกิจ เป็นการต่อยอดจากส่วนหนึ่งของแผนการดำเนินงานภายใต้พันธกิจใหม่ของบริษัทฯ ในโอกาสการดำเนินงานในประเทศไทยครบรอบ 60 ปีที่ผ่านมา นอกจากได้เปิด “ศูนย์การเรียนรู้โตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์” ครอบคลุมพื้นที่ครบทั้ง 6 ภูมิภาคทั่วประเทศแล้ว ยังมุ่งมั่นส่งต่อความรู้ให้แก่สังคมไทย เพื่อขับเคลื่อนความสุขสู่ผู้คนและส่งเสริมให้เกิดความยั่งยืนของสังคมภายใต้ “เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน” โดยโตโยต้ามุ่งหวังให้ศูนย์การเรียนรู้ฯ ทั้ง 6 แห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลไกสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก และเป็นศูนย์กลางแห่งการเรียนรู้สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจชุมชนในประเทศไทย ผ่านการถ่ายทอดแนวความรู้ในการปรับปรุงธุรกิจ ส่งเสริมให้เกิดสังคมแห่งการแบ่งปันความรู้ เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กลุ่มธุรกิจชุมชนทั่วประเทศสามารถนำไปต่อยอดในการขับเคลื่อนธุรกิจของตนเองและสร้างเสถียรภาพแก่เศรษฐกิจของประเทศต่อไป

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :
ข้อมูลข่าวสารผ่านทาง T-SI Facebook Fan Page : www.facebook.com/toyotasocialinnovation
สมัครกิจกรรมสัมมนาผ่านทาง T-SI Website : https://toyotatsi.com/course

ข่าวอัพเดทล่าสุด .....

โตโยต้า ฉลองความสำเร็จ “การอบรมผู้ประกอบการ 6 ภูมิภาค” “T-SI The Wisdom Workshop รู้ครบ… จบทุกปัญหาธุรกิจ” มุ่งมั่นส่งต่อความรู้สู่ความยั่งยืน

คุณนันทวัฒน์ ศรีวรัตน์อัชกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด คุณนิติ วิวัฒน์วานิช ท่านรองผู้ว่าจังหวัดชลบุรี คุณเนติ มงคลจิตตานนท์ กรรมการ บริษัท ไทยยนต์ชลบุรี ผู้แทนจำหน่ายโตโยต้า จำกัด และคุณคมกฤช บริบูรณ์ เจ้าของธุรกิจ บริษัท บริบูรณ์ คราฟท์ จำกัด ร่วมพิธีฉลองความสำเร็จ “การอบรมผู้ประกอบการ 6 ภูมิภาค” T-SI The Wisdom Workshop รู้ครบ… จบทุกปัญหาธุรกิจ” ณ ศูนย์การเรียนรู้โตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์ บริษัท บริบูรณ์ คราฟท์ จำกัด จังหวัดชลบุรี เมื่อวันพุธที่ 9 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา