ข้าวรัชมงคล

ความเป็นมา และวัตถุประสงค์

พระราชดำรัส

อย่างรถที่นั่งมา...สร้างด้วยฝีมือคนไทย... มีจำนวนสองร้อยกว่าคน ก็เลยทำให้เห็นว่าน่าจะหาทางที่จะช่วยเหลือคนที่อยู่ในโรงงานนี้... แล้วก็ตั้งใจที่จะสนับสนุนให้เขาตั้งโรงสี เหมือนโรงสีในสวนจิตรฯ...

อย่างรถที่นั่งมา...สร้างด้วยฝีมือคนไทย... มีจำนวนสองร้อยกว่าคน ก็เลยทำให้เห็นว่า น่าจะหาทางที่จะช่วยเหลือคนที่อยู่ในโรงงานนี้... แล้วก็ตั้งใจที่จะสนับสนุนให้เขาตั้งโรงสี เหมือนโรงสีในสวนจิตรฯ...

...ข้าวในโรงสีนี้ เป็นข้าวที่ซื้อจากเกษตรกรโดยตรง โดยให้ราคาที่เหมาะสม เกษตรกร ก็มีความสุข เพราะขายข้าวในราคาที่เหมาะสม และ ผู้บริโภค ก็ซื้อข้าวได้ในราคาถูก เพราะว่าไม่ต้องมีการขนส่งมากเกินไป ไม่ต้องมีคนกลางมากเกินไป ตกลงทั้งผู้ผลิต และผู้บริโภคก็มีความสุข

ขาดทุนเป็นการได้กำไรของเรา

พระราชดำรัชในโอกาสครบรอบ 10 ปี บริษัท ข้าวรัชมงคล จำกัด เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้บริหาร และพนักงาน ณ พระตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล

...ข้าวในโรงสีนี้ เป็นข้าวที่ซื้อจากเกษตรกรโดยตรง โดยให้ราคาที่เหมาะสม เกษตรกร ก็มีความสุข เพราะขายข้าว ในราคาที่เหมาะสม และ ผู้บริโภค ก็ซื้อข้าวได้ในราคาถูก เพราะว่าไม่ต้องมีการขนส่งมากเกินไป ไม่ต้องมีคนกลาง มากเกินไป ตกลงทั้งผู้ผลิต และผู้บริโภคก็มีความสุข

ขาดทุนเป็นการ ได้กำไรของเรา

พระราชดำรัชในโอกาสครบรอบ 10 ปี บริษัท ข้าวรัชมงคล จำกัด เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้บริหาร และพนักงาน ณ พระตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล

ประวัติความเป็นมา

โรงสีข้าวรัชมงคล...กุศโลบายที่ “พ่อ” ทำเพื่อลูก

ในปี พ.ศ. 2540 หลังจากที่รัฐบาลประกาศลอยตัวค่าเงินบาทได้เกิดวิกฤตฟองสบู่แตก หลายโรงงานในประเทศไทยปิดตัวลง เกิดข่าวลือว่าทางบริษัทโตโยต้าประเทศญี่ปุ่น จะปิดโรงงานโตโยต้าเกตเวย์ จ.ฉะเชิงเทรา และปลดพนักงานกว่า 5,500 คน ทั้งนี้เนื่องจากบริษัทโตโยต้ายอดขายตก แต่ละปีรถในสต๊อกมาก ในช่วงนั้น บริษัทฯ หยุดการผลิต แต่ยังว่าจ้างพนักงานต่อไป โดยจัดฝึกอบรม และทำกิจกรรมที่ไม่เกี่ยวกับการผลิต เพื่อให้พนักงานมีความพร้อมในเวลาเศรษฐกิจดีขึ้น

ความทราบถึงพระเนตรพระกรรณ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) ทรงเป็นห่วงว่าราษฎรของพระองค์ ซึ่งคือพนักงานโตโยต้าและครอบครัวจะประสบปัญหาหากโรงงานปิดตัวลง แม้ผู้บริหารระดับสูงในขณะนั้นได้แถลงข่าวว่าจะไม่มีการปิดโรงงานและเลิกจ้างพนักงานแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามด้วยพระมหากรุณาธิคุณฯ ท่านทรงห่วงใยพนักงานโตโยต้า ในวันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2540 เลขานุการส่วนพระองค์ ได้แจ้งทางโทรศัพท์ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มีพระราชประสงค์สั่งซื้อ "รถยนต์โตโยต้า โซลูน่า" จำนวน 1 คัน โดยให้พนักงานใช้มือทำก็ได้ ไม่ต้องใช้เครื่องจักร ไม่ต้องรีบ พนักงานคนไทยจะได้มีงานทำนานๆ

ราวหนึ่งเดือนต่อมา เมื่อผู้บริหารบริษัทโตโยต้านำรถไปถวายพระองค์ท่านในเดือนธันวาคม 2540 พระองค์ได้พระราชทาน

นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างล้นพ้น ที่ท่านทรงกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนาม "โรงสีข้าวรัชมงคล" ให้ครอบครัวโตโยต้า ได้มีส่วนร่วมในการดำเนินตามรอยพระยุคลบาท ทั้งนี้ ได้นำเงินพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์เป็นทุนก่อตั้ง นอกจากนี้ยังมีรายนามผู้ถือหุ้นอื่นร่วมด้วย ดังนี้ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด, ผู้ผลิตชิ้นส่วนโตโยต้า และ ผู้แทนจำหน่ายโตโยต้า

โดยการดำเนินงานได้ยึดปฏิบัติตามแนวทางของโรงสีสวนจิตรลดา มุ่งเน้นในปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง การให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตเกษตรกรอย่างยั่งยืน พึ่งพาตนเองได้ ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การนำวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยผ่านกระบวนการผลิตที่ง่ายแต่มีประสิทธิภาพและประหยัด

ซึ่งพระองค์ทรงมีพระราชประสงค์เพื่อช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิต ให้แก่เกษตรกรในท้องถิ่นให้ดีขึ้นด้วยการรับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนา และสหกรณ์การเกษตรชุมชนในราคายุติธรรม พร้อมจำหน่ายข้าวสารในราคาเหมาะสม โดยมิได้หวังผลกำไรจากการดำเนินงานซึ่งนับเป็นกุศโลบายอันแยบยลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าหัวอยู่หัว

ในวันที่ 9 กันยายน 2542 พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ทรงเป็นประธานประกอบพิธีเปิดโรงสีข้าวอย่างเป็นทางการ

วัตถุประสงค์ และการดำเนินกิจการ

"โรงสีข้าวรัชมงคล" สนองพระราชปณิธาน ในการช่วยเหลือสังคม พัฒนาคุณภาพชีวิตให้แก่เกษตรกรในท้องถิ่นให้ดีขึ้น ดังนี้

1. รับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนา และสหกรณ์การเกษตรชุมชนในราคายุติธรรม
2. จัดจำหน่ายข้าวสารให้ผู้บริโภคในราคาที่เหมาะสม
3. บริหารจัดการโรงสีข้าวให้อยู่ได้อย่างยั่งยืน โดยมิได้หวังผลกำไรจากการดำเนินงาน

ในส่วนของผลพลอยได้จากการสีข้าว เช่น แกลบ รำ และปลายข้าว ยังนำมาจำหน่ายแก่เกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์ในราคาต่ำกว่าตลาด เพื่อช่วยเหลือให้เกษตรกรมีต้นทุนที่ต่ำลง และขายได้กำไรมากขึ้น นำไปเลี้ยงสัตว์ หรือทำปุ๋ยสำหรับเพาะปลูกได้อีกทางหนึ่ง ซึ่งนับได้ว่าเป็นวงจร "เศรษฐกิจพอเพียง" ตามแนวพระราชดำริ

บริษัทฯ ได้ดำเนินกิจกรรมอื่นๆ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา เช่น การมอบฉางข้าวชุมชน อุปกรณ์การผลิต ตลอดจนจัดให้มีโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตชาวนา การตรวจค่าดิน สนับสนุนเมล็ดพันธุ์ และปุ๋ยสั่งตัดเพื่อลดค่าใช้จ่ายในการปลูก รวมไปถึงการพัฒนาศูนย์การเรียนรู้โรงสีข้าวรัชมงคล ให้แก่เกษตรกรและชุมชน