Eco Dealership Outlet - มาตรฐานสำหรับโชว์รูมแห่งใหม่
การบริหารจัดการน้ำ (Water Management)
ในระยะยาวปัญหาการขาดแคลนน้ำจะส่งผลกระทบมากขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งแหล่งน้ำจืดที่มีคุณภาพดีจะค่อยๆ ลดลงเนื่องจากมลภาวะ และน้ำเสียที่มากขึ้นทุกวัน เราจึงต้องใช้น้ำให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด และต้องลดการสูญเสียให้มากที่สุด บางครั้งเราสูญเสียน้ำไป โดยไม่ก่อให้เกิดประโยชน์จากหลายๆ ทาง เช่น ก๊อกน้ำชำรุด ไม่สามารถปิดได้สนิท หรือลืมปิด
การบริหารจัดการนํ้าจะเน้น 2 ประเด็นหลัก คือ การลดการใช้นํ้า และการบำบัดนํ้าที่ใช้แล้ว เมื่อลดการใช้นํ้าลงก็เท่ากับว่าเราสามารถลดนํ้าเสียที่ออกจากศูนย์ได้ด้วย
-
1. ลดปริมาณการใช้นํ้าจากโถสุขภัณฑ์
สุขภัณฑ์ทั่วไปมีการใช้น้ำที่ 13 ลิตร/ครั้ง ในขณะที่สุขภัณฑ์ที่ถูกออกแบบ เพื่อการประหยัดน้ำจะใช้น้ำเพียง 6 ลิตร/ครั้ง สำหรับโถสุขภัณฑ์แบบปุ่มเดียว และ 3 ลิตร/ครั้ง สำหรับโถผลิตภัณฑ์แบบสองปุ่ม
• ใช้สุขภัณฑ์ประหยัดน้ำตามมาตรฐานที่ไม่เกิน 6 ลิตร/ครั้ง • ผลิตภัณฑ์ขนาด 3.5 ลิตร/ครั้ง ต้องมีระยะห่างของบ่อบำบัดไม่เกิน 2 เมตร • ลดการใช้น้ำ และได้ภาพลักษณ์ของผู้นำด้านการประหยัดน้ำ -
2. ลดปริมาณการใช้นํ้าจากโถปัสสาวะ
โถปัสสาวะแบบทั่วไปจะมีการใช้น้ำที่ 6 ลิตร/ครั้ง ในขณะที่โถปัสสาวะที่ออกแบบมาเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการชำระสูงจะใช้น้ำอยู่ที่ 1 ลิตร/ครั้ง
• ใช้สุขภัณฑ์ประหยัดน้ำตามมาตรฐานที่ไม่เกิน 1 ลิตร/ครั้ง • ลดการใช้น้ำ และได้ภาพลักษณ์ของผู้นำด้านการประหยัดน้ำ -
3. ลดปริมาณการใช้นํ้าจากก๊อกนํ้า
ก๊อกน้ำทั่วไปมีอัตราการไหลของน้ำที่ 13 ลิตร/นาที ในขณะที่ก๊อกที่มีการเติมอากาศเพื่อให้ได้ความรู้สึกนุ่มมือและแรงเหมือนก๊อกปกติ จะมีอัตราการไหลของน้ำที่ 6 ลิตร/ครั้ง
• ใช้ก๊อกประหยัดน้ำชนิดกดเพื่อเปิด หรือแบบอัตโนมัติ • ลดการใช้น้ำ และได้ภาพลักษณ์ของผู้นำด้านการประหยัดน้ำ -
4. ใช้นํ้าจากแหล่งนํ้าทดแทน
การใช้น้ำในบางกิจกรรมที่ไม่ได้สัมผัสกับผู้ใช้โดยตรง และไม่มีความจำเป็นต้องใช้น้ำสะอาดขนาดน้ำประปา เช่น น้ำรดต้นไม้ น้ำชำระล้างสุขภัณฑ์ เราสามารถใช้น้ำจากแหล่งอื่นทดแทนได้ เช่น น้ำฝน ฯลฯ
• จัดหาบ่อปิดเพื่อรองรับน้ำฝนขนาด 10 ลบ.ม เพื่อใช้สำหรับโถปัสสาวะและรดน้ำต้นไม้ • ระบบควรสามารถสลับมาใช้น้ำประปาได้ เพื่อให้มีน้ำใช้ในหน้าแล้ง • ลดการใช้น้ำ และได้ภาพลักษณ์ของผู้นำด้านการประหยัดน้ำ